นายพงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น(FORTH)เปิดเผย"อินโฟเควสท์"ว่า ประเมินว่าปี 53 บริษัทยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะจากการรับงานอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ที่กำลังเติบโตทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการเปิดให้บริการ 3G ในประเทศไทยจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายอุปกรณ์ให้กับบริษัทด้วย
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีหน้าจะมีงานใหม่เปิดให้เข้าร่วมประมูลอีกหลายงาน เนื่องจากงานด้านไอทีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก ทั้งจากการขยายบริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีอัตราการขยายตัวในทุกกลุ่ม และภาครัฐยังมีการใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมาก ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้ง บมจ.ทีโอที ยังมีงานขยายระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอีก 3 ล้านเลขหมายที่บริษัทจะเข้าร่วมประมูลด้วยแน่นอน
"ปีหน้าน่าจะดีกว่าปลายปีนี้เพราะปีหน้ายังมีงานใหญ่รออยู่หลายงานทั้งของ CAT และ TOT ปีหน้าเป็นปีที่เราได้เข้าประมูลไปแล้วในปีนี้ และไปรอผลประมูลในปีหน้าและส่งมอบในปีหน้า และงานของ กทม.ก็จะมีเป็น backlog เป็นปีหน้าหลายตัว CCTV ของกทม.ก็เพิ่มอีกมาก เพราะงบประมาณยังมาอีกมาก จากปีนี้ 400 กว่าล้านบาท แต่ยังมีอีกเพราะกำลังประมูลอยู่อีกหลายที่ จึงมั่นใจว่าปีหน้ายังจะมีงานให้ประมูลเยอะขึ้น รวมทั้งถ้ามี 3G เราก็ผลิตอุปกรณ์ด้วย"นายพงษ์ชัย กล่าว
นายพงษ์ชัย กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลเพิ่มเติมอีก โดยในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ บริษัทจะเข้าประมูลงานของทีโอที มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะประกาศผลในเดือนพ.ย.คาดว่าน่าจะได้งานทั้งหมด และจะทยอยรับรู้รายได้จากงานนี้ในต้นปี 53 ถึงปลายปี 53 จนกว่าจะส่งมอบงานครบทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีงานติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่ กทม.ที่จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากปีนี้ที่จะรับรู้รายได้จาก CCTV ประมาณ 400 กว่าล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างประมูลเพิ่มอีก
นายพงศ์ชัย เปิดเผยว่า บริษัทประเมินว่าในปีนี้จะทำรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 7,469 ล้านบาท และมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะพลิกกลับเป็นกำไรได้ จากปี 51 ที่มีผลขาดทุน 78 ล้านบาท โดยขณะนี้มีงานที่อยู่ระหว่างทยออยรับรู้รายได้เป็นงานติดตั้งชุมสายอินเตอร์เน็ตของทีโอทีที่เซ็นสัญญาไว้ประมาณ 640 กว่าล้านบาท และงานติดตั้งกล้อง CCTV ของ กทม.เป็นต้น
บริษัทจะเร่งส่งมอบงาน 2-3 งานในไตรมาส 3/52 และไตรมาส 4/52 ซึ่งจะทำให้ยอดรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังสูงกว่าครึ่งปีแรกมาก โดยไตรมาส 3/52 ผลประกอบการน่าจะยังเป็นกำไรต่อเนื่องจากไตรมาส 2/52 ที่ทำกำไรได้เล็กน้อย ขณะที่ไตรมาส 4/52 มีโอกาสจะทำกำไรได้เพิ่มขึ้นอีก เพราะมีงานที่รอส่งมอบในไตรมาส 4/52 เป็นจำนวนมาก
"ไตรมาส 3/52 ผลที่รายได้ของบริษัทดีขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นของ ทีโอที ที่เซ็นสัญญามา อีกทั้งยังมีฮาร์ดดิสก์ที่ดีมาตั้งนานแล้วดีต่อเนื่องมาตลอด"นายพงศ์ชัย กล่าว
พร้อมกันนั้น จากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ฟื้นตัวขึ้น จะส่งผลให้งานรับจ้างผลิตฮาร์ดดิสก์ให้กับบริษัท Western Digital ซึ่งเป็นลูกค้าหลักมีเข้ามามากขึ้นตลอด โดยขณะนี้บริษัทผลิตอยู่ที่ 2 ล้านชิ้น/เดือน คิดเป็นประมาณ 600-700 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นมากจากปีที่แล้วที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-1.8 ล้านชิ้น/เดือน