นายโพธิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสวีไอ(SVI) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายสายการผลิตในโรงงานแห่งที่ 3 รวมทั้งหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ ๆ จากไต้หวันและสหรัฐเข้ามาเสริมแหล่งเดิม ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ เพื่อให้สามารถรองรับกับคำสั่งซื้อสินค้าที่คาดว่าจะเข้ามาเพิ่มขึ้นในปี 53 ได้
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 53 เติบโตขึ้นราว 10-15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ราว 190 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนที่มียอดขาย 215 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายโพธิ กล่าวว่า การหดตัวของยอดขายของบริษัทในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นระดับปกติ เนื่องจากบริษัทเคยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องปีละ 25% ในช่วงปี 48-51 โดยเฉพาะในปีนี้ยอดขายปรับตัวลดลง จากผลกระทบสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปีนี้ และการปิดสนามบินในช่วงปลายปีก่อน รวมทั้งการหดตัวของเศรษฐกิจโลก
"ถึงแม้ว่าในไตรมาส 4 นี้จะมีสัญญาณการกลับมาของลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่อีก 2 ราย แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยกับการที่ลูกค้าหายไปในช่วงต้นปีได้"นายโพธิ์ กล่าว
นายโพธิ กล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทมองโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาเติบโตได้ตามปกติ ดังนั้น บริษัทจึงพยายามมองหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยในไตรมาส 4/52 บริษัทจะเริ่มสั่งซื้อวัตถุดิบจากไต้หวันและสหรัฐ จากเดิมที่เคยสั่งซื้อจากผู้ผลิตในยุโรปและจีนที่เริ่มพบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ เชื่อว่าแหล่งวัตถุดิบใหม่ดังกล่าวจะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาไปได้
"ตอนนี้ปัญหาอยู่วัตถุดิบที่ไม่พอกับออร์เดอร์ที่เข้ามา ทั้ง ๆ ที่ความสามารถเราผลิตได้ คงจะลำบากกับการหาวัตถุดิบเพราะเข้าใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราพยายามหาในประเทศอื่นแทน ตอนนี้เราเริ่มมองหาที่ไต้หวันและสหรัฐ"นายโพธิ์ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตและเพิ่มสายการผลิต รวมทั้งปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งปัจจุบันได้มีการสร้างคลังสินค้า(warehouse)เสร็จแล้ว โดยในปี 53 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้แล้วรวมกับงบลงทุนปกติราว 350 ล้านบาท สูงกว่าปีนี้ที่ใช้งบลงทุน 90 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่นำมาจากเงินทุนของบริษัท
นายโพธิ์ กล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ว่า บริษัทมีความพอใจที่สามารถรักษายอดขายได้ในระดับที่ดีภายใต้ผลกระทบหลายด้าน และรักษาลูกค้าเดิมให้อยู่ได้ นอกจากนั้น ที่ผ่านมาก็ทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจ โดยสามารถจ่ายเงินปันผลไปแล้วถึง 1.1 บาท/หุ้น หรือถือว่าจ่ายเกิน 70% ของกำไรปี 52 แล้วจึงทำให้ไม่ต้องจ่ายปันผลในงวดปีนี้แล้ว
นอกจากนี้ บรมีแผนจะไปโรดโชว์ที่ยุโรปและแถบเอชีย โดยคาดว่าจะเห็นในไตรมาส 1/53 โดยจะเป็นการปรับ Image หลังจากผลกระทบการปิดสนามบิน เชื่อว่าการไปโรดโชวครั้งนี้จะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น