TICON ตั้งเป้าปี 53 ทำรายได้ 3.3 พันลบ. ตั้งงบลงทุนสูงกว่าปี 52

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 17, 2009 11:51 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON) เชื่อว่าแนวโน้มการปรับตัวของธุรกิจในปี 53 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ โดยพิจารณาได้จากการเข้ามาเช่าโรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/52 จึงทำให้มองว่ารายได้ในปี 53 จะอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท จากปี 52 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.7 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 53 บริษัทมีแผนในการสร้างโรงงานและคลังสินค้า รวมประมาณ 130,000 ตร.ม. แบ่งเป็นการสร้างโรงาน 5-6 หมื่นตร.ม และคลังสินค้า 6-7 หมื่นตร.ม.โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 1.3-1.5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่ใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท ซึ่งจะตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่ช่วงหลังจะหันมาเช่ามากขึ้น

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทจะมีรายได้จากการขายโรงงานเป็นสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน(TFUND)เพิ่มเติมอีกประมาณ 8 หมื่น-1 แสน ตร.ม.หรือคิดเป็นมูลค่าราว 2 พันล้านบาท รวมทั้ง ค่าบริหาร TFUND และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ หรือทีโลจิส (TLOGIS) ขนาดกองทุน 1,533 ล้านบาทที่จะเสนอขายในวันที่ 18-25 พ.ย.และคาดว่าจะมี yield 8.35% ในปีแรก

อนึ่ง TICON มีนโยบายลงทุนในกองทุน TLOGIS ในสัดส่วน 20% น้อยกว่ากองทุน TFUND ที่ถืออยู่ 33%

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ในปีนี้ yield ของกองทุน TFUND จะอยู่ที่ 8% แต่ในปี 53 คาดว่า yield จะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในอัตราเดียวกับ TLOGIS ที่ 8.35% เนื่องจากสัญญาณการเข้ามาของลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องไปยังปีหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อ TICON ให้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าที่สนใจจะเข้ามาเช่าพื้นที่โรงงานเพิ่มเติม คาดว่าในไตรมาส 4/52 จะได้ข้อสรุปการเข้ามาเช่าพื้นที่ของลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาวประมาณ 10 ปี รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น(Gross profit margin)เพิ่มเป็น 30% โดยจะเริ่มบันทึกเข้ามาในไตรมาส 4/52

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทจะมีการทยอยปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 2% ภายในสิ้นปีนี้ จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ปรับลดค่าเช่าลงไป 2-3% เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ปัจจุบันสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว

"มองว่าในปีหน้าทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะเห็นจากธุรกิจที่มีสัญญาณการฟื้นตัว พวกที่จะทำ Eco car จะเริ่มผลิตก็จะยิ่งดีกับเรา และไหนเราจะยังมีกองทุนใหม่ TLOGIS ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า" นายวีรพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่าเช่าในช่วงที่ผ่านมาและจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลออาจจะส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งจะรวมถึง NAV ของ TFUND ด้วยที่มีนักวิเคราะห์ประเมินอยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท แต่เชื่อว่าการฟื้นตัวจะดีขึ้นในปีหน้า



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ