นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (S&P) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตราว 9% เมื่อเทียบกับปี 51 ที่มีรายได้ 4,378 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตในปีนี้ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ผิดไปจากเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ว่าจะเติบโตได้ราว 12-15%
อย่างไรก็ตาม อัตราเติบโตดังกล่าวก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3/52 ถึงแม้ว่าขณะนี้จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นแล้ว ซึ่งจากผลกระทบเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อรายได้จากตลาดต่างประเทศลดลง 10% ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการกลับมาของกำลังซื้อผู้บริโภค ทำให้คาดว่าการเติบโตของรายได้ในปี 53 คงจะกลับไปสู่ภาวะปกติที่ 12% จากปี้นี้ โดยเห็นแนวโน้มในไตรมาส 4/52 เชื่อว่ารายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/52 เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ และจะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ส่วนลด 15% สำหรับยอดซื้อ 1,500 บาท
"ตอนนี้สถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้ายเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกทำให้ร้านขายอาหารและร้านเบเกอรี่มีกำลังซื้อที่ลดลง แต่เท่าที่ผมเห็นในไตรมาส 4 นี้ดีขึ้นแล้วและน่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ และที่ผ่านมาธุรกิจใหม่ๆที่เราทำก็ช่วยได้ค่อนข้างมาก เช่น บลูคัพ ขายกาแฟ" นายประเวศวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และการเพิ่มสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ความต้องการสินค้ายังมีค่อนข้างสูง โดยเบื้องต้นบริษัทวางเป้าหมายการขยายสาขาในปีหน้าไม่น้อยกว่าปี 52 ที่มีการขยายสาขาใหม่กว่า 40 สาขา คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวไม่นับรวมการเปิดสาขาที่ปักกิ่งและออสเตรเลียในปีหน้า
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนนำเอาสินค้าสดหรืออาหารแช่แข็งที่ปัจจุบันขายผ่านโมเดิร์นเทรด เช่น ไส้กรอก ฯลฯ มาขายในสาขาของร้านเอสแอนด์พี ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับสาขามากขึ้น จากปัจจุบันที่การขายผ่านสาขายังเติบโตได้ดีเฉพาะสินค้าประเภทเบเกอรี่