โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย)(DELTA)คาดผลประกอบการไตรมาส 4/52 ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มปีหน้ายังดีตามภาวะเศรษฐกิจ สินค้าของ DELTA ถือว่าแตกกต่างจากอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่น เพราะเน้นไฮเอนด์และผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นที่ดี มองว่าการเข้าซื้อกิจการใหม่ในสหรัฐ แม้จะล่าช้าจากปีนี้ไปแต่จะไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะมีกำลังผลิตรองรับ และเชื่อว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าที่จะโตจากภายนอก
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 23.00 บล.เอเซีย พลัส ซื้อ 23.70 บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 20.60 บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ซื้อ 21.10 บล.ทิสโก้ ซื้อ 20.60 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทศ) ซื้อ 20.60 บล.ซิกโก้ ซื้อ 21.84
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ แนะ"ซื้อ"หุ้น DELTA โดยมองว่าบริษัทอยู่ในช่วง recovery trend จากที่แย่ที่สุดในช่วงไตรมาส 2 และคงกลับไปสู่ระดับปกติเต็มที่ในช่วงไตรมาส 3/53 โดยโมเมนตัมการฟื้นตัวของผลดำเนินงานจะส่งผลให้ไตรมาส 4/52 ออกมาดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/52 และยังมองโมเมนตัมนี้น่าสนใจไปถึงขั้นรับเงินปันผล
ทิศทางปี 53 คาดการณ์กำไรของ DELTA ไว้ 2,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 16% ส่วนที่จะเข้าไปซื้อกิจการใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะล่าช้าออกไปเป็นปีหน้า คงยังไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นรวดเร็วอาจจะทำให้การเจรจาราคาซื้อขายกันไม่ลงตัว ทางฝั่งคนขายก็อยากจะได้ราคาเพิ่มขึ้น น่าจะทำให้เรื่องนี้ต้องยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า แต่หากซื้อกิจการได้ก็มองว่าน่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ DELTA ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
น.ส.อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า แนวโน้มของ DELTA ค่อนข้างแตกต่างจากอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่น เพราะหลังๆ มุ่งขยายสายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ(Diversify)ตัวเองไปสู่ธุรกิจที่เป็นไฮเอนด์มากขึ้น ทำให้ไม่ได้แกว่งตัวผันผวน(Volatility)ไปตามตลาดโลก ส่วนแนวโน้มยอดขายสินค้าของบริษัท ในแง่ของตลาดที่ได้เน้นที่ไปอินเดียก็ยังเติบโตได้ดี ส่วนการเน้นผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นดี ช่วยทำให้บริษัทมี growth ในระยะยาว ขณะที่บริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ส่วนใหญ่ค่อนข้างเน้นไปสินค้าขั้นต้น ซึ่งมี Volatility มาก
สำหรับผลประกอบการของ DELTA ในปีหน้าคาดว่ายังเติบโตได้ดี เนื่องจากมีการเจรจาเข้าไปซื้อกิจการเพิ่มเติมในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ในอนาคตบริษัทจะมีการเติบโตจากภายนอก ขณะที่มีสถานะทางการเงินพร้อมสำหรับการซื้อกิจการ และช่วงนี้เป็นจังหวะการลงทุนที่ดี น่าจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ทั้ง knowhow และธุรกิจใหม่ๆ การทำ M&A ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับบริษัท ดีกว่าไปเริ่มจากศูนย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ให้เหตุผลของการแนะ"ซื้อ"หุ้น DELTA โดย outlook สำหรับในไตรมาส 4/52 ยังดูดีคล้ายกับไตรมาส 3/52 แต่น่าจะดีกว่าได้เล็กน้อยเพราะออร์เดอร์ต่างๆ เข้ามาดี ประกอบกับ แนวโน้มในปีหน้าก็ยังเป็นภาพของการเติบโตขึ้นหลังจากฟื้นตัว ซื้อกจการ
"การซื้อกิจการเราคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้วสำหรับปีนี้ เพราะด้วยฐานและกำลังการผลิตของบริษัทที่มีอยู่ก็ถือว่าจะรองรับออร์เดอร์ของลูกค้าได้อยู่แล้วและยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะทำอะไรตรงนั้น"นายปริญทร์ กล่าว
น.ส.อังคณา ตั้งวิกรมไกร บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)มองว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/52 น่าจะดีเพราะ DELTA หลังจากที่ร่วงไปถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/52 หลังจากนั้นผลประกอบการก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/52 ต่อเนื่องไตรมาส 4/52 ที่จะออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ
ทิศทางปีหน้าน่าจะดี น่าจะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วนเข้าซื้อกิจการขึ้นอยู่กับการเจรจา เพราะทางบริษัทยังไม่ได้บอกความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากเกรงจะกระทบกับการเจรจาตกลงราคาซื้อขาย ถ้าพูดออกมาการที่จะซื้อของถูกทำได้ยากและก็จะซื้อแพงไปเรื่อยๆ แต่ก็มีโอกาส ให้ราคาเป้าหมาย 21.10 บาท
"สิ่งที่ DELTA ทำตอนนี้(ซื้อกิจการ)เป็นการขยายกำลังการผลิตอยู่แล้ว การที่ไปซื้อคนอื่นก็เหมือนกับการขยายกำลังการผลิตไปแล้วในตัว"น.ส.อังคณา กล่าว