นายวิวัฒน์ คงคาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนมิตร แฟคตอริ่ง (DM) คาดว่า รายได้ในปี 53 จะกลับมาเป็นปกติเหมือนปี 51 ที่มีรายได้กว่า 140 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ลูกค้าของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโมเดิร์นเทรดกลับมาขอใช้บริการเงินทุนหมุนเวียนเหมือนเดิม ประกอบกับบริษัทมีลูกค้าใหม่ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ และ พลาสติกเข้ามา
สัญญาณดังกล่าวเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. 52 และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมายอดขายลดลงไป 20%
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า จากที่คนกล้ากลับมาลงทุนแล้วทำให้คาดว่าพอร์ตสินเชื่อปี 53 จะกลับมาเหมือนปี 51 ที่มูลค่าพอร์ตอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท จาก 9 พันล้านบาทในปีนี้ หรือลดลง 20%
ขณะที่ ปีนี้ผลกระทบจากเศรษฐกิจคงจะทำให้รายได้ต่ำกว่าปี 51 หรือทำได้แค่ 120 ล้านบาทเท่านั้น ขณะเดียวกันกำไรปี 53 ก็น่าจะดีขึ้นกว่าปี 52 ที่ประเมินว่ากำไรคงจะลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วที่มีกำไร 38 ล้านบาท จากการที่พยายามควบคุมหนี้เสียไม่ให้มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น โดยปีนี้หนี้เสียอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้เสียจากลูกค้าที่เลิกกิจการไป 5-10 ราย หรือคิดเป็น 100 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ค้างชำระซึ่งจำนวนดังกล่าวบริษัทได้มีการตั้งสำรองเต็มจำนวนแล้ว สเปรดปีหน้าจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 8% จากปีนี้อยู่ที่ 7% เพราะต้นทุนดอกเบี้ยปีหน้าต่ำกว่าส่งผลให้สเปรดสูงขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนโมเดิร์นเทรด 60% ปีหน้าจะกลับมาในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี 51ที่ 65-70% ซึ่งโมเดิร์นเทรดจะเป็นลูกค้าหลักของบริษัท ที่เหลือเป็นลูกค้าทั่วไป
แม้กำไรในปีนี้ใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วบริษัทจะพยายามจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพราะถือเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เพราะหุ้นไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
"หลังจากนี้ไม่น่าจะมีอะไรเลวร้ายแล้วเพราะลูกค้ามีการปรับตัวและถ้าเศรษฐกิจดีลูกค้าก็จะกลับมาลงทุนซึ่งก็จะส่งผลดีกับเราที่เป็นผู้ให้บริการเงินทุน แต่เราเองก็จะต้องให้ความสำคัญในการควบคุมการจัดการหนี้สินเพื่อให้มีความเสี่ยงน้อยลงด้วยเหมือนกัน" นายวิวัฒน์ กล่าว