หุ้น EE ราคาไหลลง 4.55% มาอยู่ที่ 1.68 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.40 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.80 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.68 บาท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย(SP)หุ้นของ บมจ. อีเทอเนิล เอนเนอยี(EE)ตั้งแต่รอบเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป หลังบริษัทได้นำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 3/52 สิ้นสุด 30 ก.ย.52 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์แล้ว
EE และบริษัทย่อยประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/52 ขาดทุนสุทธิ 30.3 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.011 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.91 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.005 บาท โดยชี้แจงว่า สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทได้ขายทรัพย์สินส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอาหารในวันที่ 31 ก.ค.52 ดังนั้น บริษัทจึงรับรู้ผลการดำเนินงานของส่วนธุรกิจอาหารเพียง 7 เดือน
ผลการดำเนินงานมีดังนี้ รายได้รวมจำนวน 563.556 ล้านบาท ลดลง 23.74% จากไตรมาส 3/51 ส่วนหนึ่งมาจากการแข็งค่าของเงินบาท มีผลให้รายได้จากการขายลดลง ต้นทุนขายจำนวน 554.721 ล้านบาท ลดลง 8.76% จากไตรมาส 3/51 แต่เกิดผลขาดทุนขั้นต้นจากส่วนธุรกิจอาหาร จำนวน 12.251 ล้านบาท เนื่องจากการลดกำลังการผลิตลง และมีการนำสินค้าสำเร็จ รูปเดิมมาทำการผลิตใหม่เพื่อส่งสินค้าออกตามคำสั่งซื้อ
ค่าใช้จ่ายการบริหาร จำนวน 248.043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.05% จากไตรมาส 3/51 เนื่องจากบริษัทใหญ่ได้บันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้การค้าธุรกิจอาหาร จำนวน 104.772 ล้านบาท และบริษัทย่อยทางอ้อมได้บันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าที่ดินเพิ่มขึ้น จำนวน 46.886 ล้านบาท