โบรกเกอร์ เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON)หลังคาดกำไรไตรมาส 4/52 ออกมาดีที่สุดสำหรับปีนี้(2552)จากการขายคลังสินค้ามูลค่า 1,500 ล้านบาทเข้า Property Fund TLOGIS คาดมีกำไรกว่า 300 ล้านบาท ทั้งนี้ TICON ถือหุ้น 20% ใน TLOGIS ด้วย
TICON ได้ผ่านจุดต่ำสุดลงไปแล้ว และจากนี้ไปก็อยู่ในทิศทางปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาใหม่มีมากกว่าลูกค้าที่ยกเลิกไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยลูกค้าครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ รองลงมาเป็นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์
นอกจากนี้ TICON ยังมีจุดเด่นเรื่องการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอปีละครั้ง คาดว่าปี 52 จะจ่ายราว 0.70 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 7.6% ถือว่าค่อนข้างดี พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 52 ในช่วง 559-651 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท จากผลกระทบอุตสาหกรรมย่ำแย่ช่วงต้นปีทำให้ลูกค้ายกเลิกเช่าพื้นที่ และบริษัทฯมีการให้ส่วนลด ทำให้ 9 เดือนแรกของปีนี้ผลกำไรออกมาไม่ดี และปีที่แล้ว TICON มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนไปถึง 2,100-2,200 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ขายไปเพียง 1,500 ล้านบาท
ส่วนปี 53 คาดกำไรสุทธิในช่วง 738-837 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจหลักดีขึ้น ไม่มีส่วนลดแล้ว และพื้นที่ให้เช่าก็มีเพิ่มขึ้น รวมถึงคาดว่าจะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้นจากปีนี้ด้วย โดยคาดว่าจะขายประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งก็น่าจะทำให้ผลประกอบการของ TICON ในปีหน้าเติบโตดีขึ้นได้
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.บัวหลวง ซื้อ 14.00
บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 12.00
บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 11.62
บล.กสิกรไทย ซื้อ 11.50
บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 12.50
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น TICON ด้วยราคาเป้าหมาย 11.62 บาท/หุ้น เนื่องจากมองว่าไตรมาส 4/52 กำไรจะดีขึ้นมาก จากการขาย Ware House เข้า Property Fund TLOGIS ด้วยมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 52 มีประมาณ 651 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงต้นปีอุตสาหกรรมได้ย่ำแย่ ลูกค้ามีการยกเลิก, บริษัทฯมีการให้ส่วนลด ทำให้ 9 เดือนแรกของปีนี้จึงมีผลกำไรที่ไม่ดี
ส่วนปีหน้า(2553)คาดว่ากำไรสุทธิของ TICON จะมี 837 ล้านบาท เนื่องจากจะไม่มีในเรื่องส่วนลดแล้ว และพื้นที่โรงงานให้เช่าก็มีเพิ่มขึ้น รวมถึงคาดว่าจะมีการขายสินทรัพย์เข้า Property Fund ด้วยมูลค่า 1,500 ล้านบาทขึ้นไปด้วย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้ TICON ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจากนี้ไปก็อยู่ในทิศทางที่จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าของ TICON ที่เข้ามาใหม่มีมากกว่าลูกค้าที่ยกเลิกออกไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และครึ่งหนึ่งของลูกค้าเป็นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ รองลงมาเป็นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งปีหน้า(2553)คาดว่าน่าจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทิศทางตอนนี้ถือว่าเป็นบวกมาก ๆ ต่อ TICON
นอกจากนี้ TICON ก็ได้มีการขายโรงงานให้กับ Property Fund TLOGIS ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่า 1,500 ล้านบาท ดังนั้นเบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิของ TICON ในปีนี้จะอยู่ที่ 559 ล้านบาท และอาจจะมีกำไรมากกว่าประมาณการได้อีกเล็กน้อย เนื่องจากมีการรับรู้สัดส่วนการลงทุน TLOGIS มากกว่าที่คาดไว้ โดย TICON ถือหุ้น 20% ใน TLOGIS
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิปีนี้จะเห็นได้ว่าลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วบริษัทได้ขายสินทรัพย์เข้ากองทุนไปถึง 2,200 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ขายไปเพียง 1,500 ล้านบาท ส่วนปีหน้า(2553)คาดว่ากำไรสุทธิจะมีประมาณ 826 ล้านบาท
นายเถลิงศักดิ์ ตันติพินธวัตร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ แนะ"ซื้อ"หุ้น TICON เนื่องจากผลประกอบการงวดไตรมาส 4/52 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ TICON สำหรับปีนี้ โดยคาดว่าจะมีกำไรจากการขายคลังสินค้าประมาณกว่า 300 ล้านบาทบันทึกในไตรมาส 4/52
นอกจากนี้ แนวโน้มธุรกิจก็ดูดีขึ้นด้วย โดยรายได้จากค่าเช่ามีแนวโน้มดีขึ้น อย่างไตรมาส 4/52 คาดว่าจะมีพื้นที่ให้เช่า 25,000 ตารางเมตร และมีการคืนพื้นที่เช่าประมาณ 4,500 ตารางเมตร ถือว่าดีขึ้นจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้ง TICON ยังมีจุดเด่นเรื่องการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและจ่ายปีละครั้ง คาดว่าปีนี้จะจ่ายประมาณ 0.70 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 7.6% ถือว่าค่อนข้างดี
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิของ TICON ในปี 52 ไว้ที่ 636 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ขายคลังสินค้าไปแค่ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ปี 51 ขายสินทรัพย์ไป 2,100 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไรสุทธิจะดีขึ้นเป็น 738 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจหลักดีขึ้น และยังมีการขายสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปีนี้ด้วย โดยคาดว่าจะขายประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการของ TICON ในปีหน้าเติบโตดีขึ้นได้