ข้อบังคับหมวด 900 การพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์
ในการพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับนี้
ในการพิจารณาอุทธรณ์ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์ขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วยกรรมการอุทธรณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้อย่างน้อยต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์สูงด้านกฎหมาย ด้านบัญชีและการเงิน และด้านธุรกิจสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า ด้านละ 1 คน เพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับคำอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ ทั้งนี้กรรมการอุทธรณ์ต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกับผู้ออกคำสั่งลงโทษ
ให้กรรมการอุทธรณ์มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี และดำรงตำแหน่งติดต่อกันไม่เกิน 2 วาระ
ในกรณีที่กรรมการอุทธรณ์พ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการอุทธรณ์ขึ้นใหม่ ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการอุทธรณ์ขึ้นใหม่ ให้กรรมการอุทธรณ์ซึ่งพ้นจากตำแหน่งอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการอุทธรณ์ซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ กรรมการอุทธรณ์พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) คณะกรรมการมีมติให้ออก
(4) เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ 902
ในกรณีที่กรรมการอุทธรณ์พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมการอุทธรณ์แทน และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการอุทธรณ์ซึ่งตนแทน
ให้คณะกรรมการอุทธรณ์มีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์เพื่อเสนอความเห็นเกี่ยวกับคำอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาสั่งการ พิจารณาคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษ พิจารณาและสั่งการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดอนุพันธ์ รวมตลอดถึงการปฏิบัติอื่นใดที่จำเป็นต่อกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์
*ให้คณะกรรมการอุทธรณ์เลือกกรรมการอุทธรณ์คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการอุทธรณ์ในการประชุมของคณะกรรมการอุทธรณ์ ต้องมีกรรมการอุทธรณ์มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการอุทธรณ์ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
ในกรณีที่ประธานกรรมการอุทธรณ์ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ถ้าไม่มีรองประธานหรือมีแต่ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการอุทธรณ์ที่มาประชุมเลือกกรรมการอุทธรณ์คนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการอุทธรณ์คนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน การประชุมของคณะกรรมการอุทธรณ์อาจใช้วิธีการที่กรรมการอุทธรณ์ทุกคนลงมติโดยการลงลายมือชื่อไว้ในเอกสารซึ่งแสดงถึงมตินั้นแล้วแทนก็ได้ และการวินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นไปตามความในวรรคสี่ แต่ทั้งนี้ วิธีการประชุมดังกล่าวมิให้นำมาใช้กับการ ประชุมเพื่อลงมติที่เป็นการลงโทษหรือเพิ่มโทษแก่ผู้อุทธรณ์
กรรมการอุทธรณ์ผู้ใดมีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณา ห้ามมิให้เข้าร่วมพิจารณาในเรื่องนั้น
(*ความในวรรคแรกของข้อ 906 เดิมถูกยกเลิก และให้ใช้ความใหม่นี้แทน โดยข้อบังคับของตลาดอนุพันธ์หมวด 900 การพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ เรื่อง การประชุมคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ ลงวันที่ 2 เมษายน 2550)
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอุทธรณ์ ให้ตลาดอนุพันธ์จัดให้มีเลขานุการคณะกรรมการอุทธรณ์ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบและเสนอความเห็นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ ตลอดจนดำเนินการอื่นใดเพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับนี้
(*ความในหลักเกณฑ์ 907 เดิมถูกยกเลิก และให้ใช้ความใหม่นี้แทนโดยข้อบังคับ บริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 ซึ่งมีผลใช้บังคับวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป)
การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ ผู้ถูกลงโทษจะดำเนินการทั้งปวงด้วยตนเองหรืออาจทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนก็ได้ โดยผู้ถูกลงโทษมีสิทธิโต้แย้งคำสั่งลงโทษต่อคณะกรรมการโดยยื่นอุทธรณ์ผ่านคณะกรรมการอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งลงโทษ
อุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์หรือผู้รับมอบอำนาจแล้วแต่กรณี โดยระบุคำสั่งลงโทษอันเป็นเหตุให้ต้องอุทธรณ์ ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเหตุผลที่เป็นข้อโต้แย้งว่าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งลงโทษในเรื่องใด
บรรดาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อุทธรณ์ซึ่งผู้อุทธรณ์กล่าวอ้างประกอบข้อโต้แย้งหรือเห็นว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอุทธรณ์ ให้ผู้อุทธรณ์แนบเอกสารหลักฐานดังกล่าวมาพร้อมกับอุทธรณ์ด้วย
การยื่นอุทธรณ์ตามหลักเกณฑ์ 908 ให้ยื่นได้ที่เลขานุการ เมื่อเลขานุการได้รับอุทธรณ์แล้ว ให้ออกใบรับอุทธรณ์แก่ผู้อุทธรณ์ โดยใบรับอุทธรณ์นั้นอย่างน้อยต้องมีข้อความแสดงถึงวัน เดือน ปี ที่รับอุทธรณ์ และชื่อผู้อุทธรณ์
ในกรณีที่เป็นการยื่นอุทธรณ์เมื่อล่วงพ้นระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ 908 วรรคหนึ่งไปแล้ว ให้เลขานุการสั่งจำหน่ายอุทธรณ์ดังกล่าว โดยรายงานให้คณะกรรมการอุทธรณ์ทราบและมีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์นั้นทราบด้วย
ในกรณีที่เลขานุการเห็นว่าคำอุทธรณ์เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้องหรือมีรายการไม่ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ ให้เลขานุการมีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบถึงความไม่ถูกต้องหรือรายการที่ไม่ครบถ้วนดังกล่าวโดยแจ้งกำหนดเวลาให้ผู้อุทธรณ์แก้ไขหรือจัดทำอุทธรณ์ที่ถูกต้องครบถ้วนมายื่นใหม่ภายในเวลาที่กำหนด
ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์ไม่แก้ไขหรือไม่จัดทำอุทธรณ์ที่ถูกต้องครบถ้วนมายื่นใหม่ภายในเวลาที่กำหนดตามวรรคสาม ให้นำความในวรรคสองมาใช้บังคับ แต่ถ้าผู้อุทธรณ์ได้แก้ไขหรือจัดทำอุทธรณ์ที่ถูกต้องครบถ้วนมายื่นใหม่ภายในเวลาที่กำหนดตามวรรคสาม ให้ถือว่าผู้อุทธรณ์ได้ยื่นอุทธรณ์ภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามหลักเกณฑ์ 908 วรรคหนึ่ง แล้ว
ในกรณีที่เลขานุการเห็นว่าคำอุทธรณ์เป็นอุทธรณ์ที่ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ 908 ให้เลขานุการจัดทำความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสนอต่อคณะกรรมการอุทธรณ์โดยไม่ชักช้า
ให้เลขานุการทำหน้าที่เป็นเลขานุการของที่ประชุมหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นทำหน้าที่แทน
ในการพิจารณาอุทธรณ์ ให้คณะกรรมการอุทธรณ์ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์
ในระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการอุทธรณ์อาจสั่งให้เลขานุการทำหนังสือเรียกให้ผู้อุทธรณ์มาพบเพื่อสอบถาม หรือส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม หรือชี้แจงข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกับเรื่องที่อุทธรณ์เพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนด หรืออาจเรียกให้หน่วยงานภายในของตลาดอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งลงโทษส่งเอกสารหลักฐานหรือชี้แจงเพิ่มเติม
การชี้แจงตามวรรคสองต้องทำเป็นหนังสือ เว้นแต่ในกรณีที่คณะกรรมการอุทธรณ์อนุญาตให้ชี้แจงด้วยวาจาต่อหน้าคณะกรรมการอุทธรณ์
ในกรณีการชี้แจงด้วยวาจาตามวรรคสาม ให้เลขานุการจดบันทึกการชี้แจงนั้นและให้ผู้ชี้แจงลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน
การนับระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง มิให้นับรวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอุทธรณ์มีคำสั่งตามวรรคสอง จนถึงวันที่คณะกรรมการอุทธรณ์ได้รับเอกสารหลักฐานหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมโดยครบถ้วน
เมื่อคณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณาแล้วเสร็จ ให้เลขานุการจัดทำบันทึกความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลของคณะกรรมการอุทธรณ์เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาสั่งการต่อไป
ให้คณะกรรมการพิจารณาสั่งการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานความเห็นของคณะกรรมการอุทธรณ์ เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลานั้น
หากคณะกรรมการพิจารณาสั่งการต่างไปจากความเห็นของคณะกรรมการอุทธรณ์คณะกรรมการต้องให้เหตุผลประกอบการสั่งการนั้นด้วย
การพิจารณาสั่งการข้างต้นของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาสั่งการเสร็จสิ้นแล้ว ให้ตลาดอนุพันธ์มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาสั่งการดังกล่าวพร้อมเหตุผลให้ผู้อุทธรณ์และสำนักงาน ก.ล.ต. ทราบโดยไม่ชักช้า
การยื่นอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษ โดยผู้อุทธรณ์อาจยื่นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษดังกล่าวต่อคณะกรรมการผ่านคณะกรรมการอุทธรณ์มาพร้อมกับการยื่นอุทธรณ์ได้ โดยในคำขอนั้นต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษ พร้อมทั้งแนบสำเนาหนังสือแจ้งคำสั่งการลงโทษมาด้วย
เมื่อมีการยื่นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษโดยถูกต้อง ให้เลขานุการพิจารณาคำขอดังกล่าวเป็นการด่วน และทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการอุทธรณ์โดยไม่ชักช้า
ในกรณีที่คณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนและคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษนั้นมีเหตุผลอันสมควร ให้คณะกรรมการมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรโดยจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ตามที่จำเป็นด้วยก็ได้ และให้เลขานุการมีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ ผู้ออกคำสั่งลงโทษ สำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานภายในตลาดอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งลงโทษนั้นทราบด้วย
ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นควรมีคำสั่งไม่ให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งลงโทษให้เลขานุการมีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์และสำนักงาน ก.ล.ต. ทราบโดยไม่ชักช้า
--บมจ.ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)--