ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 ตุลาคม 2553 - 21 ตุลาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และอากาศเย็นลง ในช่วงที่สภาพอากาศเริ่มเย็นลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ในระยะต่อไปปริมาณน้ำค้างจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรลดความชื้นในพื้นที่การเกษตรโดยดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค ระยะนี้อุณหภูมิจะเริ่มลดลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกันหนาวและให้ความอบอุ่นเอาไว้ให้พร้อม ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากสัตว์น้ำปรับตัว ไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ระยะนี้อากาศเริ่มหนาวเย็น เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารที่ให้แก่สัตว์น้ำ เนื่องจากอุณหภูมิที่ลดลงทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์อยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรระวังป้องกันการรบกวนของแมลงศัตรูสัตว์ ที่ค่อนข้างจะชุกชุม ในช่วงนี้ ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหาย
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร ให้มีประสิทธิภาพ อย่าให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนานเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศ และต้นตายได้ สำหรับชาวสวนผลไม้ที่ตัดแต่งกิ่งไม้ผลในระยะนี้ควรทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกัน เชื้อรา สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 17-20 ต.ค. มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควร ติดตามเฝ้าระวัง สภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ฝั่งตะวันออก เกษตรกรควรดูแลพื้นที่การเกษตรให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูกพืช สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หากโตได้ขนาดควรทยอยจับขายไปก่อน อนึ่ง ชาวเรือบริเวณทะเล อันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74