พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 1 - 7 พฤศจิกายน 2553

ข่าวทั่วไป Monday November 1, 2010 14:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 01 พฤศจิกายน 2553 - 07 พฤศจิกายน 2553

ภาคเหนือ

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมโรงเรือนให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ลมโกรก รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงที่อ่อนแอจะเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 2-7 พ.ย. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ทางด้านตะวันออกของภาค ในช่วงที่อุณหภูมิลดลงและมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลตนเองให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย อย่างไรก็ดีผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่ายกายควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยด้วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ควรระวังความเสียหายเนื่องอุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำเครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งน้ำ นอกจากนี้ควรระวังสุขลักษณะเพื่อป้องกันโรคต่างๆ

ภาคกลาง

อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 2-7 พ.ย. มีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่น้ำท่วม เกษตรกรควรระวังสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ และป้องกันโรคตาแดง และโรคระบบทางเดินอาหาร ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคตะวันออก

อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดย มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรดูแลตนเองและสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรควบคุมอุณหภูมิน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนบนห่างฝั่งจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ตั้งแต่จังหวดชุมพรลงไปอุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปในควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเตรียมจุดอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงบนที่สูง อนึ่ง ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าสู่ฝั่ง ส่วนชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ