ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 22 พฤศจิกายน 2553 - 28 พฤศจิกายน 2553
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย.ในตอนเช้าจะมีหมอก และหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอุบัติเหตุขณะขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ในระยะนี้สภาพอากาศชื้นเนื่องจากหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรควรป้องกันการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา นอกจากนี้เกษตรกรบริเวณตอนล่างของภาคควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะผลผลิตอาจจะเปียกชื้นจากฝนในช่วงนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย และมีหมอกลดลง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค สำหรับในช่วงที่มีหมอกและหมอกหนา เกษตรกรควรระมัดระวังอันตรายในการขับขี่ยานพาหนะในบริเวณดังกล่าว ส่วนทางตอนล่างของภาคในช่วงนี้อาจจะมีฝนตก ชาวนาที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจจะทำให้เปียกชื้นเสียหายได้ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งน้ำ
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่การกระจายและปริมาณไม่มาก เกษตรกรจึงควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูพื้นที่สำหรับการปลูกพืชรุ่นใหม่
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งตลอดช่วง เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร และหากต้องการปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ควรเลือกพืชที่ใช้น้ำน้อย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจะได้ใช้อย่างเพียงพอตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากสภาวะดังกล่าว ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนผลไม้ควรดูแลสภาพสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74