พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 24 - 30 พฤศจิกายน 2553

ข่าวทั่วไป Wednesday November 24, 2010 14:37 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 24 พฤศจิกายน 2553 - 30 พฤศจิกายน 2553

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับผลผลิตการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเนื่องจากหมอกและน้ำค้าง ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกและพืชผักควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้าง นอกจากนี้ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วยโดยตรง หากจำเป็นควรสวมถุงมือทุกครั้ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะแรก และต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง 1-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 29-30 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ระยะนี้อุณหภูมิต่ำสุดและสูงสุดแตกต่างกันมาก เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ เกษตรกรที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยง หลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องการการเกิดอัคคีภัย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. มีฝนบางแห่ง ในระยะแรก และต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 29-30 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยวดยานพาหนะ สำหรับระยะนี้มีแดดจัดและสภาพอากาศแห้ง ผู้ที่ปลูกไม้ดอกในโรงเรือนควรพรางแสง และเพิ่มความชื้น โดยนำวัสดุอุ้มน้ำชุบน้ำแล้วนำไปไว้ในโรงเรือน รวมทั้งทำแผงกำบังลมโดยเฉพาะลมหนาว(ลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะแรก และต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 29-30 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและมีแหล่งเก็บน้ำทางด้านการเกษตรเป็นของตนเอง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง สำหรับผลผลิตการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย.เพราะจะทำให้เปียกชื้นเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป และในช่วงวันที่ 29-30 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตลอดช่วง ระยะนี้ภาคใต้ตอนล่างจะมีปริมาณฝนมากกว่าทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากความชื้น สำหรับทางตอนบนของภาคปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักเอาไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง สำหรับพืชสวนที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นทรุดโทรม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ