พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 29 พฤศจิกายน 2553 - 05 ธันวาคม 2553

ข่าวทั่วไป Monday November 29, 2010 13:53 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 พฤศจิกายน 2553 - 05 ธันวาคม 2553

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพระบบทางเดินหายใจของตนเองและสัตว์เลี้ยง ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากหมอกและน้ำค้าง ผู้ที่ปลูกผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจจะเปียกชื้นเสียหายได้เนื่องจากหมอกและน้ำค้าง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ระยะนี้มีแสงแดดจัด และอากาศค่อนข้างแห้ง น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุมแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้งจากฝนที่ตกในช่วงดังกล่าว สำหรับเกษตรกรในพื้นที่นอกเขตชลประทานหากต้องการปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ภาคใต้จะมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 29 พ.ย. - 3 ธ.ค. เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากสภาวะน้ำท่วม ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงทางตอนล่างของภาค ชาวสวนผลไม้ควรตัดแต่งกิ่งไม้ผลให้ทรงพุ่มโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนทางตอนบนของภาคซึ่งมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ