ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 03 ธันวาคม 2553 - 09 ธันวาคม 2553
ภาคเหนือ
อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นโดยมีฝนบางแห่ง ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันไม่สัตว์เลี้ยงอ่อนแอเป็นโรคได้ง่าย เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้ง ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกแห้งและร่วงหล่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรงตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นโดยมีฝนบางแห่ง ระยะนี้มีอากาศหนาวเย็น และลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับปรุงโรงเรือนให้มิดชิดแข็งแรงเพื่อป้องกันลมหนาว ส่วนผู้ที่ก่อไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันอัคคีภัย สำหรับเกษตรกรในพื้นที่นอกเขตชลประทานหากต้องการปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น และใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำในระยะต่อไป
ภาคกลาง
อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้าตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นโดยมีฝนบางแห่ง ระยะนี้มีแสงแดดจัด และอากาศค่อนข้างแห้ง น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช รวมทั้งคลุมแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน ส่วนไม้ผลที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกแห้งและร่วงหล่น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 3-4 ธ.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา เว้นแต่ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มขึ้นโดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืนอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัด นครศรีธรรมราชลงไป อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า เป็นต้น สำหรับชาวเรือในอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74