ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 ธันวาคม 2553 - 21 ธันวาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-17 และ 21 ธ.ค. อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่ตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้งควรระวังฝนที่จะตกในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. ส่วนเกษตรกรที่ต้องการเพาะปลูกพืชไร่และพืชผักสามารถปลูกได้ในช่วงนี้เนื่องจากดินยังคงมีความชื้นเพียงพอ และควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่ตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้งควรระวังฝนที่จะตกในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. และเนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงกับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรซ่อมแซมโรงเรือนให้มิดชิดป้องกันเพื่อป้องกันลมหนาว ส่วนผู้ที่ก่อไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่ตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้งควรระวังฝนที่จะตกในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. และเนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเกษตรกรควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้อาจจะช่วยลดอัตราการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรนิดต่าง ๆ ลงไปได้บ้าง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. มีฝนเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่ตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้งควรระวังฝนที่จะตกในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. และเนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 15 และ 21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 16-20 ธ.ค. เกษตรกรในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก สำหรับผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่จะซัดเข้าสู่ฝั่งด้วย ส่วนคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงในอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74