ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 20 ธันวาคม 2553 - 26 ธันวาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 26 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ระยะนี้สภาพอากาศแห้ง ไม้ผลที่อยู่ในระยะพักตัวเพื่อเตรียมแทงช่อดอก ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ตาดอกเหี่ยวแห้ง การออกดอก และติดผลลดลง ส่วนในตอนกลางคืนและตอนเช้าจะมีหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-24 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. มีฝน บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียสและมีลมแรง เนื่องจากสภาพอากาศแห้งน้ำผิวดินจะระเหยได้มาก เกษตรกรจึงควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำ ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรหมั่นสำรวจ หากพบตัวที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มแล้วทำการรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรค แพร่กระจายไปยังตัวอื่นๆ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 20-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และในวันที่ 26 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง เนื่องจากระยะนี้มีแดดจัด ลมแรง และสภาพอากาศแห้ง ผู้ที่ปลูกกล้วยไม้ในโรงเรือนควรพรางแสง กำบังลม และเพิ่มความชื้นในโรงเรือน เพื่อ ป้องกันกล้วยไม้เหี่ยวแห้ง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรใช้น้ำ ที่สำรองเอาไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 20-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ในวันที่ 26 ธ.ค. มีฝนบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง เนื่องจากระยะต่อไปแม้จะมีฝนตก แต่ปริมาณน้อย เกษตรกรกรควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตร ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้งที่จะมาถึง ในสภาพอากาศที่แห้ง ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาด ของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชทรุดโทรมและเสียหาย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20 และ 26 ธ.ค. ส่วนทางฝั่งตะวันตก อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ตลอดช่วง และมีฝนตกหนัก บางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26 ธ.ค. สำหรับพื้นที่ลาดชันที่มีฝนตกติดต่อกัน เกษตรกรกรควรระวังและป้องกันหน้าดินไถล ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับในช่วงวันที่ 26 ธ.ค. คลื่นลม ในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74