ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 22 ธันวาคม 2553 - 28 ธันวาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวัง ในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับมะม่วงที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคราดำ หากพบควรฉีดพ่นด้วยน้ำจะช่วยลดการระบาดลงไปได้ นอกจากนี้ควรใช้น้ำ ที่สำรองใว้อย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. มีฝน บางแห่ง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียสและมีลมแรง ช่วงที่มีหมอกหนาทำให้การมองเห็นลดลง เกษตรกรควรระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย สำหรับผู้ที่ปลูกยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยหลีกเลี่ยงการจุดไฟในบริเวณสวน หากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้ง และทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนในวันที่ 26-28 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับพื้นที่ซึ่งมีหมอก จะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจร ส่วนพืชไร่ ซึ่งอยู่ในระยะผลิดอกออกผล เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติม ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลผลิตลดลง หากขาดน้ำรุนแรงจะทำให้ผลผลิตสูญเสียอย่างสิ้นเชิง สำหรับกล้าไม้ที่ปลูกใหม่ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา เกษตรกรควรทำที่พรางแสง เพื่อลดความเข้มของแสงแดด
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ในวันที่ 26-28 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ระยะนี้ในบางพื้นที่จะมีหมอกและหมอกหนา เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเตรียมแตกตาดอกและผลอ่อน ชาวสวนควรระวังป้องกันการระบาด ของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ตาดอกเหี่ยวแห้ง ผลอ่อนหลุดร่วง ส่งผลให้ การออกดอกและติดผลลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. มีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26 -28ธ.ค. ระยะนี้ภาคใต้ทางตอนบนของภาคจะมีฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกติดต่อกันโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน รากพืชจะขาดอากาศจนต้นตายได้ สำหรับในช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74