พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 5 - 11 มกราคม 2554

ข่าวทั่วไป Wednesday January 5, 2011 14:34 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 มกราคม 2554 - 11 มกราคม 2554

ภาคเหนือ

ทางตอนบนอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ สำหรับในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. มีฝนบางแห่งทางตอนบนกับด้านตะวันตกของภาค ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและอาจมีเหมยขาบบางพื้นที่ เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนบริเวณที่อากาศหนาวจัดโดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาและยอดดอย เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้างในพืชไร่และพืชผัก อนึ่งในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค. อาจมีฝนบางแห่งทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรงดตากผลผลิตทางการเกษตรในช่วงดังกล่าว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทางตอนบนอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.อุณหภูมิจะลดลงและมีลมแรง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนหรือทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์ที่ยังเล็ก ส่วนผู้ที่ปลูกพืชผักควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคกลาง

อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ตลอดช่วง เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกชื้นจากหมอกและน้ำค้าง ควรผึ่งแดดให้แห้งสนิทก่อนนำเข้าโรงเก็บ สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะหากสัตว์ปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ตลอดช่วง ระยะนี้สภาพอากาศแห้งน้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อน เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 6, 9-11 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 7-8 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึง กระจาย ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค บริเวณที่มีฝนตกเกษตรกรควรกักเก็บน้ำใว้ใช้ในช่วงที่ขาดฝน อนึ่งบริเวณอ่าวไทยตอนล่างอาจมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากภาวะคลื่นซัดฝั่งไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ