พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 10 - 16 มกราคม 2554

ข่าวทั่วไป Monday January 10, 2011 14:32 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 10 มกราคม 2554 - 16 มกราคม 2554

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ทางตอนบนกับด้านตะวันตกของภาค ต่อในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน ส่วนผู้ที่ปลูกผักและไม้ดอกชนิดต่างๆควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง เป็นต้น อนึ่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อาจจะมีฝนตก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 12-16 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง รวมทั้งเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ส่วนผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรดับให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการลุกลามเป็นอัคคีภัย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอย่าให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ในบริเวณที่อากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรที่ปลูกผักชนิดต่างๆ ควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอและคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆ

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงโดยเฉพาะโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เล็กควรเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนให้อบอุ่นขึ้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ระยะนี้ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้สำหรับการเกษตรตลอดช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และในช่วงวันที่ 12-16 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย โดยมีฝนหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง ระยะนี้ทางตอนล่างของภาคตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หน้ากรีดยางเสียหายได้ อนึ่ง ระยะนี้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างอาจมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3-4 วันนี้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ