พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 14 - 20 มกราคม 2554

ข่าวทั่วไป Friday January 14, 2011 14:38 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 มกราคม 2554 - 20 มกราคม 2554

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และอาจมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 ม.ค. เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะจะได้รับความเสียหายจากฝน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยง โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนหรือทำแผงกำบังลมหนาว เนื่องจากระยะนี้ลมแรง ผู้ที่จุดไฟผิงให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย ในช่วงที่อุณหภูมิน้ำลดต่ำลง ปลาจะกินอาหารลดลง เกษตรกรควรลดปริมาณอาหาร เพื่อไม่ให้เหลือตกค้างมากจนเน่าเสียในบ่อ ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. เกษตรกรควรระวังความเสียหายกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้งเนื่องจากฝน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพ ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 ม.ค. เกษตรกรควรระวังความเสียหายกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้งเนื่องจากฝน สำหรับพืชที่ได้ปลูกไปแล้วและอยู่ในระยะเจริญเติบโตจำเป็นต้องได้รับน้ำเพิ่มเติม เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้เหมาะสมตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง แม้ว่าระยะนี้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง อาจมีแมลงศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรแดงระบาดทำลายไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน ทำให้ผลผลิตลดลง ชาวสวนจึงควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชดังกล่าว

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนฝั่งตะวันตกอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ตลอดช่วง สำหรับฝนที่ลดลงในระยะนี้จะทำให้สภาวะน้ำท่วมคลี่คลายลง ส่วนคลื่นลมใน อ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่ง ควรระวังความเสียหายที่เกิดจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ