พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 18 - 24 มกราคม 2554

ข่าวทั่วไป Tuesday January 18, 2011 14:08 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 18 มกราคม 2554 - 24 มกราคม 2554

ภาคเหนือ

อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-5 องศา โดยในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3-5 องศา ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง อีกท้งระวังอัคคีภัยที่เกิดจากไฟป่า และกองไฟที่จุดเพื่อให้ความอบอุ่น สำหรับสัตว์เลี้ยงเกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน กำบังป้องกันลมหนาว เพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย ในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. ไม่ควรตากผลผลิตการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะจะเปียกฝนเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-18 ม.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา และมีหมอกในตอนเช้า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ส่วนเกษตรกรที่ก่อไฟผิงให้ความอบอุ่น ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์ที่ยังเล็ก ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและสภาพน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อีกทั้งจำกัดปริมาณการให้อาหารเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย จากเศษอาหารที่เหลือ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 17-18 ม.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า สัปดาห์นี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 17-18 ม.ค. อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ในระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งหมั่นกำจัดวัชพืชเพื่อมิให้ไปแย่งน้ำจากพืชที่ปลูก ในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. ไม่ควรตากผลผลิตการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะจะเปียกฝนเสียหายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝั่งตะวันตกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่งๆ ตลอดช่วง ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อีกทั้งจำกัดปริมาณการให้อาหาร ป้องกันน้ำเน่าเสีย จากเศษอาหารที่เหลือ สำหรับผู้ที่เพิ่งปลูกพืชผักรอบใหม่ ควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ มิเช่นนั้นพืชจะชะงักการเจริญเติบโต อนึ่งในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. ชาวเรือและชาวประมงในอ่าวไทยควรเพิ่มระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ