ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 มกราคม 2554 - 25 มกราคม 2554
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เกษตรกรจึงควรรักษาสุขภาพตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง และเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้างในพืชไร่และพืชผัก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-9 องศา ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เกษตรกรจึงควรรักษาสุขภาพตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ส่วนเกษตรกรที่ก่อไฟผิงให้ความอบอุ่น ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย และเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน สำหรบผู้เลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและสภาพน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อีกทั้งจำกัดปริมาณการให้อาหารเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย จากเศษอาหารที่เหลือ
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ในระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งหมั่นกำจัดวัชพืชเพื่อมิให้ไปแย่งน้ำจากพืชที่ปลูก ในช่วงวันที่ 22-25 ม.ค. ไม่ควรตากผลผลิตการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจจะเปียกฝนเสียหายได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 21-25 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ระยะนี้บริเวณตอนบนของภาคจะมีฝนน้อย เกษตรกรจึงควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างพอเพียง ส่วนทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หน้ากรีดยางเสียหายได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
การคาดหมายให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74