พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 21 - 27 มกราคม 2554

ข่าวทั่วไป Friday January 21, 2011 14:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 21 มกราคม 2554 - 27 มกราคม 2554

ภาคเหนือ

มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1- 3 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-5 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค. จะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะในบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนผลผลิตการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะจะเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีหมอกในตอนเช้า และในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2- 3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ส่วนผู้ที่จุดไฟผิงให้ความอบอุ่นควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ส่วนในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค. เกษตรกรควรระวังอุบัติเหตุขณะขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา

ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1- 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ระยะนี้ท้องฟ้าโปร่ง แสงแดดดี เกษตรกรสามารถนำผลผลิตของพืชไร่ที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ออกผึ่งแดดเพื่อลดความชื้น ป้องกันการเกิดเชื้อรา สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1- 3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ระยะนี้สภาพอากาศแห้ง น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชให้เหมาะสมกับระยะเจริญเติบโต และคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นภายในดิน รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรแดงในพืชไร่และไม้ผล

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝั่งตะวันตกอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ระยะนี้ทางตอนบนของภาคยังคงมีฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชให้เหมาะสมกับระยะเจริญเติบโต ส่วนทางตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยปรับสภาพสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก อนึ่งในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ