พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 31 มกราคม 2554 - 06 กุมภาพันธ์ 2554

ข่าวทั่วไป Monday January 31, 2011 14:44 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 31 มกราคม 2554 - 06 กุมภาพันธ์ 2554

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ระยะนี้อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างช่วงกลางวันกับกลางคืน ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน จะป่วยไข้ได้ง่าย ดังนั้นเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง นอกจากนี้ควรดับไฟที่จุดเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย สำหรับผลผลิตการเกษตรไม่ควรตากไว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. เพราะจะเปียกเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. ตอนบนของภาค อากาศหนาว และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวและมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส สภาพอากาศช่วงกลางวันกับกลางคืนแตกต่างกันมาก อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วในตอนกลางคืน เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ส่วนบริเวณที่มีลมแรงควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์ที่ยังเล็กเพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. อากาศเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาค ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรปลูกพืชที่อายุเก็บเกี่ยวเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรังและควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. — 2 ก.พ. อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ในระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลให้ป่วยไข้ได้ง่าย เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งหมั่นกำจัดวัชพืชที่จะไปแย่งน้ำจากต้นพืช เสี่ยงต่อการขาดแคนน้ำจนผลผลิตเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 31 ม.ค. — 2 ก.พ. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายตลอดช่วง ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าฝั่ง สำหรับทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนสำรองไว้เพื่อใช้ในช่วงแล้ง อนึ่งในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. ชาวเรือและชาวประมงในอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันลดลง ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ยังคงมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ