พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2554

ข่าวทั่วไป Thursday February 10, 2011 14:16 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 - 16 กุมภาพันธ์ 2554

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 11-15 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11-14 ก.พ.ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกให้ระมัดระวังพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 ก.พ. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 11-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ และอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 10-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 10-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ และอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ