พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 11 - 17 กุมภาพันธ์ 2554

ข่าวทั่วไป Friday February 11, 2011 13:53 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 - 17 กุมภาพันธ์ 2554

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 11-15 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้ในวันนี้ ทำให้ประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11-14 ก.พ.ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกให้ระมัดระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูแลสุขภาพจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 12-17 ก.พ. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา

ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8- 14 องศา

ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่และอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา

ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ และอากาศจะเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ