พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 - 20 กุมภาพันธ์ 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงทำให้ทุกภาคมีอากาศอุ่นขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้าปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้มีบริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นแห่งๆถึงกระจาย ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. 54 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ.ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10- 14 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74