พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 14 - 20 กุมภาพันธ์ 2554

ข่าวทั่วไป Monday February 14, 2011 14:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 กุมภาพันธ์ 2554 - 20 กุมภาพันธ์ 2554

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ระยะ 1-2 วันนี้ จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดกับพืชชนิดต่างๆ นอกจากนี้ควรสำรวจตรวจสอบอาคารบ้านเรือนและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ หากไม่แข็งแรงควรรีบซ่อมแซม เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชก สำหรับอุณหภูมิในช่วงกลางวันและกลางคืนยังแตกต่างกันมาก เกษตรกรจึงควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10- 14 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดกับพืชชนิดต่างๆ อีกทั้งสำรวจตรวขสอบอาคารบ้านเรือนและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ หากไม่แข็งแรงควรรีบซ่อมแซม เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชก นอกจากนี้ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่างให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจนเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส ระยะ 1-2 วันนี้ เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกฝน นอกจากนี้นอกจากนี้ควรสำรวจตรวจสอบอาคารบ้านเรือนและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ หากไม่แข็งแรงควรรีบซ่อมแซม เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชก ส่วนบริเวณนาข้าวในเขตชลประทานควรระวังศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งอาจจะระบาดในช่วงที่อากาศในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส ระยะ 1-2 วันนี้ เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกฝน นอกจากนี้ควรจัดทำค้ำยันไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต เช่น ทุเรียน ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชก ส่วนพืชไร่และผักที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรหมั่นกำจัดศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งอาจจะระบาดในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น รวมทั้งจัดหาน้ำแก่พืชเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อช่วงเจริญเติบโต

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง ส่วนฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายตลอดช่วง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในช่วงแล้ง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ