ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 23 กุมภาพันธ์ 2554 - 01 มีนาคม 2554
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24 ก.พ. - 1 มี.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ช่วงนี้เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศจะแปรปรวน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำรวจซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรง ส่วนไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อนชาวสวนควรเริ่มให้น้ำในปริมาณน้อยแล้วค่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24 ก.พ. - 1 มี.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ระยะนี้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำรวจซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรง ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ควรระวังศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งอาจจะระบาดในช่วงที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น
ภาคกลาง
ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำ 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24 ก.พ. - 1 มี.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และควรสำรวจสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนสำรวจซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ให้อยู่ในสภาพแข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรง สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้เกษตรกรควรกักเก็บสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24 ก.พ. - 1 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก เมื่อมีลมกระโชกแรง สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้เกษตรกรควรกักเก็บสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 24 ก.พ. - 1 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆส่วนมากทางตอนล่างของภาค ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตลอดช่วง ฝนที่ตกในช่วงนี้เกษตรกรควรกักเก็บสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง สำหรับไม้ผลหากเริ่มเห็นดอกชัดเจนแล้ว ชาวสวนควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง รวมทั้งควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้รวมอยู่ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74