พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 9 มีนาคม 2554 - 15 มีนาคม 2554

ข่าวทั่วไป Wednesday March 9, 2011 19:30 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 9 มีนาคม 2554 - 15 มีนาคม 2554

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 9-10 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในระยะนี้

ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มี.ค.บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ทั่วทุกภาคมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านเข้ามาในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางพื้นที่

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค.ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9-12 มี.ค. อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศา

โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกบางแห่ง

ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง

และลูกเห็บตกในบางพื้นที่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-13 มี.ค. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศา

โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกบางแห่ง

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 มี.ค. มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค

ภาคกลาง อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา

โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 9-10 มี.ค. และ วันที่ 13-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-13 มี.ค. ทางตอนบนของภาค มีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง

ในช่วงวันที่ 14-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา

โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ