ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 14 มีนาคม 2554 - 20 มีนาคม 2554
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 14-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งอาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกฝนเสียหายได้ นอกจากนี้ควรเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ ในช่วงต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ขณะเกิดพายุฟ้าคะนอง สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกฝนเสียหายได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่อาจเกิดกับอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร สัปดาห์นี้แม้จะมีฝนตก แต่บางพื้นที่ ปริมาณฝนที่ตกอาจไม่เพียงพอ ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชให้เหมาะสมกับระยะการเจริญเติบโต เพราะหากขาดน้ำหรือได้รับน้ำไม่พอ จะทำให้ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน เกษตรกรควรซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้แข็งแรง และตรวจสอบวัสดุที่ใช้ผูกยึดค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งหักและต้นโค่นล้ม ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อาจมีศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ระบาด หากพบควรรีบป้องกันกำจัด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 14-15 และ ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 14-15 และ ในช่วงวัน 19 -20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงแล้ง และจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชอย่างเพียงพอ สำหรับชาวสวนยางพาราควรเก็บกวาดใบยางที่ร่วงหล่นภายในสวน เพื่อมิให้เป็นเชื้อไฟ และทำแนวกันไฟรอบๆ สวนยาง เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย อนึ่ง อ่าวไทยและทะเลอันดามัน ช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74