พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 17 มีนาคม 2554 - 23 มีนาคม 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกยังคงเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นลงและมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ฝนลดลง และคลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลงด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่ จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 17-19 มี.ค. ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศที่แปรปรวนจากฝนฟ้าคะนองและอากาศที่เย็นลง ส่วนชาวเรือขอให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ สำหรับสภาวะฝนที่ตกในช่วงนี้ทำให้สภาพอากาศคลายความร้อนลง และเป็นผลดีทางการเกษตร ดังนั้นขอให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งนี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 17-19 มี.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 20-30 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20-23 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้น อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในวันที่ 17-19 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 20-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในวันที่ 17-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 มี.ค. อากาศอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้น อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74