ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 23 มีนาคม 2554 - 29 มีนาคม 2554
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายกับมีกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 25-29 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ระยะนี้อากาศผันผวน เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วหากสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ชาวสวนควรตรวจสอบวัสดุที่ผูกยึด ค้ำยันกิ่งและลำต้นไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันต้นโค่นล้มและกิ่งฉีกหักเมื่อมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาคอุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ระยะนี้อากาศแปรปรวนเกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ขณะฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ปริมาณฝนที่ตกในช่วงนี้ช่วยลดการขาดแคลนน้ำของพืช ทดแทนการคายระเหยน้ำของพืช
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 23-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีลมกระโชกแรง และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้มั่นคงแข็งแรง และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ขณะฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงนี้ควรรอไปก่อน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย เกษตรกรควรผูกยึดกิ่งและค้ำยันลำต้นไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันลำต้นโค่นล้ม และกิ่งฉีกหักเมื่อมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ฝนที่ตกในช่วงนี้ช่วยเติมความชื้นในดินบรรเทาการขาดแคลนน้ำของพืช โดยเฉพาะสำหรับไม้ผลที่กำลังติดผล นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการเตรียมดินเพื่อปลูกพืชไร่รอบใหม่ก็ควรตรวจสอบความชื้นดินที่เพียงพอและควรสำรองน้ำฝนไว้ใช้ต่อไป
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ส่วนชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจระบาดในช่วงที่มีฝนตกในระยะนี้ สำหรับชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ ให้ไว้ใน ภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74