พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่างระหว่าง 11 เมษายน 2554 - 17 เมษายน 2554

ข่าวทั่วไป Tuesday April 12, 2011 06:57 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 11 เมษายน 2554 - 17 เมษายน 2554

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรสำรวจอุปกรณ์ ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นไม้ผลให้แข็งแรง สำหรับในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเกษตรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่น และเน่าเสียไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรุ่นใหม่ควรชะลอการปลูกออกไปก่อนรอจนมีฝนตกสม่ำเสมอ หรือความชื้นในดินมีเพียงพอแล้วค่อยลงมือปลูก เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำขณะพืชเจริญเติบโต ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนอย่าให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเกิดโรคได้ง่าย ส่วนฝนที่ตก ในระยะนี้จะช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรต่างๆ ลงไปได้บ้าง แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงัก การเจริญเติบโต นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสำรวจหากพบตัวที่เป็นโรคควรรีบแยกออกจากกลุ่ม แล้วทำการรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรค แพร่ไปยังตัวอื่นๆ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม ชาวสวนควรเตรียมทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกัน น้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนักในฤดูฝนที่จะมาถึง นอกจากนี้ควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสีย และร่วงหล่น ไปทำลายให้ถูกวิธีโดยการ เผา หรือฝัง เพื่อไม่ให้เชื้อโรค แพร่กระจาย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา ที่มักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย สำหรับพื้นที่ซึ่งระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม โดยหากพบต้นพืชสวนที่ล้มเอนควรผูกยึดให้ตั้งตรง ถ้าพบรอยแผลควรตัดแต่งและทำความสะอาดแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา นอกจากนี้เกษตรกร ควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า รวมทั้งไม่ควร ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับพื้นที่ซึ่งระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม โดยหากพบต้นพืชสวนที่ล้มเอนควรผูกยึดให้ตั้งตรง ถ้าพบรอยแผลควรตัดแต่งและทำความสะอาดแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา นอกจากนี้เกษตรกร ควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า รวมทั้งไม่ควร ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ