พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 26 กันยายน 2554 - 02 ตุลาคม 2554

ข่าวทั่วไป Tuesday September 27, 2011 10:42 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 กันยายน 2554 - 02 ตุลาคม 2554

ภาคเหนือ

-ในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย.-2 ต.ค. มีฝนลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

-ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนสภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน สำหรับชาวสวนมะขามหวานควรระวังและป้องกันโรคราแป้งหากพบควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้แพร่ระบาดเป็นบริเวณกว้าง ส่วนทางตอนล่างของภาคที่ยังคงมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

-ในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้าง มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค. มีฝนลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

-ในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. เกษตรกร ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นได้ ในช่วงที่มีลมแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง และต้นไม้ใหญ่ ส่วนทางตอนล่างของภาคที่ยังคงมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า รวมทั้งหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรกหากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู

ภาคกลาง

-มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%

-ระยะนี้สภาพอากาศชื้น เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในองุ่น และไม้ตัดดอก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้ชื้นแฉะเพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับบริเวณที่มีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังสัตว์มีพิษที่มากับน้ำและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า

ภาคตะวันออก

-มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งเกือบตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

-ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูกพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นตายได้ รวมทั้งดูแลบริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียน และไม่กองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรบริเวณโคนต้นพืช เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช สำหรับ ในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย.บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

-ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 27 ก.ย.-1ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

-ส่วนสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนของทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก เกษตรกรควรเตรียมขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกป้องกันน้ำท่วมขัง สำหรับ ในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย.บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

-ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

-สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตก ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับ ในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย.บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ