ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 03 ตุลาคม 2554 - 09 ตุลาคม 2554
- ในช่วงวันที่ 3-6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ทางตอนบนของภาคที่ถูกน้ำท่วมระยะที่ผ่านมา หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรและแหล่งน้ำให้กลับมีสภาพดีดังเดิม
-ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขัง และระวังโรคติดต่อที่มากับน้ำ เช่น โรคฉี่หนู หากจำเป็นต้องย่ำน้ำควรสวมรองเท้าบู๊ท
- ในช่วงช่วงวันที่ 3-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนในวันที่ 6-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
- สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ในข้าว และโรคราน้ำค้างในข้าวโพด
-ส่วนสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ และสุกร อย่าปล่อยให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะอาจเกิดโรคปากและเท้าเปื่อยระบาดได้
- มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนัก บางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นและสภาวะน้ำท่วมยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากจากระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น
-สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ไม่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อราและหนอนชนิดต่าง ๆ แพร่ระบาดในข้าว พืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบการระบาดควรรีบป้องกันกำจัด
- มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %
- สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจสอบและควบคุมคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำ หากน้ำมีความเค็มต่ำ หรือคุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันช็อคตายได้
-เกือบตลอดสัปดาห์นี้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค.
- มีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง โดย ในช่วงวันที่ 3-6 ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นกระทบฝั่ง และระวังปลาช็อคน้ำจากภาวะฝนตกชุก
-เกือบตลอดสัปดาห์นี้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาว ประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค.
- มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
-ในช่วงที่ฝนตกสภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราและผู้ที่ปลูกกาแฟควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อช่วยลดความชื้น ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
-ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นกระทบฝั่ง และระวังปลาช็อคน้ำจากภาวะฝนตกชุก
-เกือบตลอดสัปดาห์นี้คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาว ประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74