พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 05 ตุลาคม 2554 - 11 ตุลาคม 2554

ข่าวทั่วไป Wednesday October 5, 2011 15:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 ตุลาคม 2554 - 11 ตุลาคม 2554

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-80% - ทางตอนบนของภาคเป็นช่วงปลายฤดูฝนสภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน - ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขัง และระวังโรคติดต่อที่มากับน้ำ เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ส่วนในวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-80 % -ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. เกษตรกรทางตอนล่างของภาคภาคที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่ง - สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังโรคที่มักเกิดในช่วงน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู ซึ่งเชื้อโรคอาจจะเข้าทางแผลได้ - ส่วนสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ และสุกร อย่าปล่อยให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะอาจเกิดโรคปากและเท้าเปื่อยระบาดได้

ภาคกลาง

ในช่วงช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนในวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85% - ระยะนี้จะมีฝนตกชุก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นและสภาวะน้ำท่วมยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากจากระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น - สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ไม่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อราและหนอนชนิดต่าง ๆ แพร่ระบาดในข้าว พืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบการระบาดควรรีบป้องกันกำจัด

ภาคตะวันออก

ในช่วงช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนในวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-85 % - ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก - ระยะนี้มีฝนตกชุก ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรตรวจสอบและควบคุมคุณภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันช็อคตายได้ - ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
  • ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง โดย ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % - ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % - ในช่วงที่ฝนตกสภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราและผู้ที่ปลูกกาแฟควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อช่วยลดความชื้น ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา - ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นกระทบฝั่ง และระวังปลาช็อคน้ำจากภาวะฝนตกชุก - ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. คลื่นลมในทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาว ประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ