ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 17 ตุลาคม 2554 - 23 ตุลาคม 2554
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. มีฝนบางแห่ง กับมีหมอกในตอนเช้า ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
-ในระยะ 1- 2วันนี้ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในช่วงที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรหมั่นสำรวจสัตว์เลี้ยง หากพบตัวที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่ม
-พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนที่จะตกไว้ใช้ทางด้านการเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย โดยอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
-ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเริ่มเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง และจัดเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและให้ความอบอุ่นให้พร้อม
-สัตว์เลี้ยง เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
-สัปดาห์นี้ฝนจะลดลง บริเวณที่เกิดน้ำท่วม เกษตรกรควรดูแลร่างกายให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ ตลอดจนดื่มน้ำสะอาดเพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
-สำหรับบริเวณที่ไม่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากสภาพอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้มีหนอนชนิดต่าง ๆ ระบาด เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบป้องกันกำจัด
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 17-19 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 20-23 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
-สัปดาห์นี้สภาพอากาศยังคงชุ่มชื้น ผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา
-สำหรับสวนผลไม้ ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในบริเวณสวน รวมทั้งเก็บกวาดใบไม้แห้ง หรือเศษกิ่งไม้แห้งภายในสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยและหลบซ่อนของโรคและแมลงศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
-เกษตรกรควรดูแลพื้นที่สวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นและป้องกันโรคพืชจาก เชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
-ระยะที่ผ่านมามีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลพืชที่ปลูก ซึ่งอยู่ในระยะเจริญเติบโต โดยให้น้ำอย่างพอเพียง รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อมิให้ศัตรูพืชไปอาศัยหลบซ่อน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74