ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 28 ตุลาคม 2554 - 03 พฤศจิกายน 2554
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับปรุงโรงเรือนให้แข็งแรงและมิดชิดเพื่อป้องกันลมหนาว
- ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. จะมีฝนทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง
- ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. จะมีฝนทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรซึ่งตากไว้กลางแจ้ง
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรเริ่มทำแนวกันไฟรอบบริเวณสวน เพื่อป้องกันอัคคีภัยเอาไว้แต่เนิ่นๆ เนื่องจากระยะต่อไปสภาพอากาศจะเริ่มแห้ง อาจเกิดอัคคีภัยได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 3 พ.ย. มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-80%
- ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ส่วนในตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งและมีแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด
- สำหรับบริเวณที่ยังคงมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังโรคติดต่อที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ
ภาคตะวันออก
มีฝนเป็นแห่งๆ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-80 %
- พื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานที่ไม่เกิดน้ำท่วม เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตรในช่วง ฤดูแล้งที่จะถึงนี้
- ส่วนชาวสวนผลไม้ควรกำจัดวัชพืชภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของศัตรูพืช รวมทั้งตัดแต่งกิ่งและให้ปุ๋ยบำรุง เพื่อให้ต้นพักตัวเตรียมแตกตาดอกในระยะต่อไป
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 3 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. ทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนตกหนัก ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับสวนผลไม้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากจะมีฝนมากขึ้น ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74