พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 - 15 พฤศจิกายน 2554
การคาดหมาย บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่งลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาวแล้ว และจะเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) ในขณะที่ ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนที่ผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว 3-5 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-15 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงนี้จะยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้นและตั้งแต่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรในระยะนี้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9-11 Nov, ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากฝนตกและอากาศที่เย็นลง ส่วนในช่วงวันที่ 12—15 พ.ย. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในวันที่ 9 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 10-15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศา
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งทางตอนบนของภาค
ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 12-15 พ.ย. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ย. มีเมฆบางส่วน
ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74