พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 - 21 พฤศจิกายน 2554
การคาดหมาย การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง - ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. ขอให้ประชาชน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงนี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศา ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
บริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศา
และในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา
และในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา กับมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
ในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74