พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 18 พฤศจิกายน 2554 - 24 พฤศจิกายน 2554

ข่าวทั่วไป Monday November 21, 2011 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 18 พฤศจิกายน 2554 - 24 พฤศจิกายน 2554

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 60-70 % -ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่น แก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งระวังโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ - สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย และปรับตัวไม่ทัน - เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศเย็นและแห้ง ผู้ที่ปลูกไม้ดอกและผักชนิดต่างๆควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นทรุดโทรม - สำหรับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้งให้ระวังความเสียหาย เนื่องจากฝน ในตอนต้นช่วงวันที่ 20-24 พ.ย.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในวันที่ 18 และ 24 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา และในช่วงวันที่ 19-23 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 60-70 % - สำหรับในช่วงที่อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือน เลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 65-75 % -สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้เจ็บป่วย - สำหรับบริเวณที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบปรับปรุงและฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรให้ใช้การได้ดังเดิม และควรสวมถุงมือและรองเท้าบูทเมื่อต้องทำงานในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู - เกษตรกรในเขตชลประทานที่ต้องการทำนารอบใหม่หลังน้ำลด ควรเลือกพันธุ์ข้าวที่ทนกับสภาพอากาศหนาว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 65-75 % - สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน และมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้ง - สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้บริเวณสวนแห้ง จะทำให้ต้นไม้พักตัวเตรียมแตกตาดอกในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-40 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 70-85 % - สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อนควรเฝ้าระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก - ระยะนี้เกษตกรควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นตายได้ -ส่วนพืชสวนที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้พืชเสียหาย - อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เกษตรกร ที่ทำประมงชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมง ควรเพิ่ม ความระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 70-80 % - พืชสวนที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้พืชเสียหาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ