พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 23 พฤศจิกายน 2554 - 29 พฤศจิกายน 2554

ข่าวทั่วไป Thursday November 24, 2011 06:41 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 พฤศจิกายน 2554 - 29 พฤศจิกายน 2554

ภาคเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
  • สำหรับบริเวณยอดดอยบางช่วงอาจมีน้ำค้างแข็ง เกิดขึ้นได้ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร ในระยะนี้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารในระยะที่อุณหภูมิลดลง เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้สัตว์น้ำ กินอาหารได้น้อยอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย
  • ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากฝนที่ตก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
  • สำหรับในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่บริเวณเทือกเขาสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตรด้วย
  • ระยะนี้สภาพอากาศแห้ง ชาวสวนยางพาราควรระวัง และป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก หากมีความจำเป็นต้องจุดไฟหลังใช้งานเสร็จแล้วควรดับให้สนิททุกครั้ง
  • เนื่องจากระยะนี้มีแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็น ควรสวมเสื้อผ้า ให้มิดชิด และดื่มน้ำบ่อยๆ

ภาคกลาง

  • ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรรักษาอุณหภูมิภายในโรงเรือน อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหากพบตัวที่เป็นโรคควรรีบแยกออกจากกลุ่ม แล้วรักษา เพื่อไม่ให้เชื่อโรคแพร่ไปยังตัวอื่น
  • ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกในโรงเรือนควรทำแฝงกำบังลม และเพิ่มความชื้นภายในโรงเรือน โดยใช้วัสดุชุ่มน้ำชุบน้ำแล้วนำไปไว้ในโรงเรือน
  • ส่วนในบางพื้นที่ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรระวังโรคที่มียุงเป็นพานะ และโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ

ภาคตะวันออก

  • ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
  • ระยะนี้อากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยได้มาก เกษตรกรควรคลุมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
  • เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นทรุดโทรม ส่งผลต่อการแตกตาดอกในระยะต่อไป หากพบควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้ระบาดเป็นบริเวณกว้าง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
  • พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกัน ซึ่งอาจทำให้ เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก เกษตรกร ที่อยู่ในพื้นที่ เสี่ยงภัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก ควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสภาพสวนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันความชื้น ในพื้นที่เพาะปลูก ที่จะเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • อนึ่ง ในระยะนี้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่ทำประมงชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระวังในการเดินเรือ รวมทั้งเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับจอดเรือเอาไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัด สุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
  • พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกัน ซึ่งอาจทำให้ เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก เกษตรกร ที่อยู่ในพื้นที่ เสี่ยงภัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก ควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสภาพสวนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันความชื้น ในพื้นที่เพาะปลูก ที่จะเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ