พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 28 พฤศจิกายน 2554 - 04 ธันวาคม 2554

ข่าวทั่วไป Tuesday November 29, 2011 06:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 28 พฤศจิกายน 2554 - 04 ธันวาคม 2554

ภาคเหนือ

-ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทางตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10องศา และมีน้ำแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายอย่างเพียงพอ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรให้ความอบอุ่น โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือน เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น อ่อนแอ และเป็นโรคได้
  • ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกชนิดต่างๆ ควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ดอกเสียหายได้
  • สำหรับบริเวณยอดดอยในช่วงที่อากาศหนาวเย็นลงอาจเกิดน้ำค้างแข็งได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระมัดระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

-ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบาง ในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา กับมีลมแรง ทางตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงส่วนผู้ที่จุดไฟผิงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายควรดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพราะช่วงนี้มีลมพัดแรงอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือน
  • สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย

ภาคกลาง

-ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา บริเวณเทือกเขา อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้อากาศเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

  • ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบาง ในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
  • ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค.อุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรวางแผนจัดการน้ำที่มีอยู่ให้เหมาะสมเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
  • ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสีชมพู และโรคเส้นดำ ซึ่งจะทำให้ต้นและผลผลิตเสียหายได้
  • ในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค.คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
  • ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสีชมพู และโรคเส้นดำ ซึ่งจะทำให้ต้นและผลผลิตเสียหายได้
  • ในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค.คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ