พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 - 6 ธันวาคม 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค. 2554 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อย และอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงได้ 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. 2554 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงนี้
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ธ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างที่มีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงเวลาดังกล่าว
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทางตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
ทางตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
บริเวณเทือกเขา อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีอากาศเย็นในตอนเช้า
และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. มีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นในตอนเช้า
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74