พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 19 ธันวาคม 2554 - 25 ธันวาคม 2554

ข่าวทั่วไป Wednesday December 21, 2011 06:45 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 ธันวาคม 2554 - 25 ธันวาคม 2554

ภาคเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 20-23 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพตนเองและให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
  • สำหรับผู้จุดไฟผิงให้ความอบอุ่นควรดูแลดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลา ช่วงที่อุณหภูมิที่ลดลง ทำให้ปลากินอาหารได้น้อย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารลง เพื่อป้องกันน้ำเน่าเสียจากเศษอาหารที่เหลือตกค้างในบ่อ
  • บริเวณยอดดอยและเทือกเขาอาจมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้น ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดกับพืชผลด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 20-22 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพตนเองและให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
  • ระยะนี้อากาศแห้งและมีลมแรงชาวสวนยางควรเก็บเศษใบไม้แห้ง และกำจัดวัชพืชต่างๆ ที่เป็นเชื้อไฟ ภายในสวนให้โล่งเตียน รวมทั้งทำแนวกันไฟรอบๆ สวน เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่า สำหรับเศษวัชพืช หรือใบไม้แห้งที่เก็บมาแล้ว ไม่ควรนำไปเผา แต่ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชเพื่อสงวนความชื้นในดิน และลดอัตราการระเหยน้ำจากผิวดิน
  • บริเวณเทือกเขาอาจมีน้ำค้างแข็งได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับพืชผลการเกษตร

ภาคกลาง

  • ในช่วงวันที่ 20-23 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
  • ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเอง ส่วนสัตว์เลี้ยงควรให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กอาจทำแผงกำบังลมหนาวเพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย
  • สำหรับมะม่วงที่กำลังออกดอกและติดผล ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำความเสียหายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อนและช่อดอก ทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง

ภาคตะวันออก

  • ในช่วงวันที่ 20-23 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์70-80%
  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเอง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลภายในโรงเรือนอย่าให้มีลมโกรก เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจะเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
  • สภาพอากาศที่แห้ง ทำให้น้ำระเหยจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันดอกแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมามีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 21-23 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-50 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
  • ทางตอนบนของภาคระยะที่ผ่านมามีฝนตกน้อย อากาศค่อนข้างแห้ง ผู้ที่ปลูกพืชผักควรดูแลให้น้ำแก่พืชและนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรคลุมแปลงปลูกเพื่อลดการระเหยของน้ำจากดิน
  • ในช่วงวันที่ 21-25 ธ.ค. เกษตรกรบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปขอให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และควรขุดลอกคุคลอง อย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ดีขณะมีฝนตกหนัก ส่วนพื้นที่แนวชายฝั่งทะเลให้ระวังคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าวด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์75-90%
  • คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ