พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 26 ธันวาคม 2554 - 01 มกราคม 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday December 27, 2011 06:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 ธันวาคม 2554 - 01 มกราคม 2555

ภาคเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในวันที่ 29 ธ.ค.2554- 1 ม.ค. 2555 อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอและควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้เหมาะสมเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เนื่องจากสภาพอากาศแห้ง ชาวสวนลำไยควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกแห้งและร่วงหล่น การติดผลลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูในบางช่วงอาจมีน้ำค้างแข็ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน รวมทั้งหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มแล้วรีบรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
  • เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้งและมีลมแรง ผู้ที่ปลูกพืชผักชนิดต่างๆควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่ปลูกอย่างเพียงพอ และคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นดิน

ภาคกลาง

-ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เพื่อให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เนื่องจากระยะนี้อากาศเย็น ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดการให้อาหารให้พอดีเพื่อป้องกันอาหารเหลือตกค้างทำให้น้ำเน่าเสีย รวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันอุณหภูมิแยกชั้น เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

  • ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์70-80%
  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง และให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ในช่วงที่สภาพอากาศแห้ง ชาวสวนทุเรียนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อนและตาดอกส่งผลต่อการติดดอกออกผลของพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555 มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
  • สำหรับบริเวณตอนล่างของภาคสภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงนี้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่อยู่บริเวณชายฝั่งควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง สำหรับผู้ทำประมงชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • อนึ่ง โดยเฉพาะวันที่ 26-27 ธ.ค. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 54- 1 ม.ค.55 อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555 มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
  • สำหรับบริเวณตอนล่างของภาคสภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงนี้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่อยู่บริเวณชายฝั่งควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง สำหรับผู้ทำประมงชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ