พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 23 มกราคม 2555 - 29 มกราคม 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday January 24, 2012 06:54 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 มกราคม 2555 - 29 มกราคม 2555

ภาคเหนือ

  • มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง ทางตอนบนอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศา สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
  • ในระยะนี้ทางตอนล่างของภาคจะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้งด้วย
  • ส่วนบริเวณตอนบนของภาคมีหมอกหนา เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจร
  • สำหรับมะม่วงที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยจั๊กจั่น ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากดอกและมูลของเพลี้ยจะเป็นสาเหตุการระบาดของโรคราดำ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

-ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่และไม้ดอกชนิดต่างๆ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชแคระแกร็น
  • ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย รวมทั้งควรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด

ภาคกลาง

-ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%

  • ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆและอุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย รวมทั้งควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับพืชไร่และผักชนิดต่างๆ ที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและแคระแกร็น

ภาคตะวันออก

-ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค.มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%

-ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. จะมีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้

  • แม้ว่าระยะนี้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อน เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติม นอกจากนึ้ควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก เพราะอาจมีแมลงศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรแดงระบาด หากพบควรรีบป้องกันกำจัด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
  • บริเวณตอนบนของภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกน้อยเกษตรกรที่ปลูกพืชผักรอบใหม่ ควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ เพื่อมิให้พืชชะงักการเจริญเติบโต และควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ
  • ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. บริเวณตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
  • ฝั่งตะวันตกยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางควรดูแลสวนให้โป่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ