พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 มกราคม 2555 - 29 มกราคม 2555
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ต่อจากนั้นจะมีผลกระทบกับภาคอื่นๆ
ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า
อนึ่งในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนัก
ในบางพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
ภาคเหนือ มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง
ทางตอนบนอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา
ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศา
สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย
ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค.มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74